คุริริน (อังกฤษ: Kuririn) อดีตเด็กวัดหัวโล้นและไม่มีจมูก แอบหนีรุ่นพี่ที่ชอบกลั่นแกล้งพายเรือมาเพื่อขอฝึกวิชากับ ผู้เฒ่าเต่า ซึ่งการมาครั้งนี้ทำให้เขาได้พบกับโกคู หลังจากผ่านการทดสอบจาก ผู้เฒ่าเต่า ก็ได้เป็นศิษย์ สำนักเต่า ได้เข้าร่วม ศึกชิงเจ้ายุทธภพ ทั้งสิ้น 4 ครั้ง ผลการแข่งขันที่ดีที่สุดก็คือเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งหลังจากการแข่งขัน ศึกชิงเจ้ายุทธภพ ครั้งที่ 2 นั้น คุริรินก็ต้องจบชีวิตลงเนื่องจากถูกลูกน้องของราชาปีศาจ พิคโกโร่ ฆ่าตาย แต่ก็ได้เทพมังกรช่วยชุบชีวิตให้ในเวลาต่อมา
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558
พ่อของซุนโกคู ถูกฟรีเซอร์ฆ่าตาย แต่ในปี 2012 ได้มีแอนิเมชันออกมาใหม่ เป็นตอนพิเศษ ของบาด็อก กล่าวถึงตอนหลังจากที่บาด็อกถูกโจมตีโดยฟรีเซอร์แล้วก็บังเอินหลุดกาลเวลาไปยังอดีตในสมัยที่ดาวเบจิต้านั้นยังไม่มีพวกชาวไซย่าอยู่แล้วได้ถูกช่วยไว้โดยชาวดาวดั้งเดิมของที่นั้น ต่อมาได้ต่อสู้กับบรรพบุรษ ของฟรีเซอร์ที่หน้าตาเหมือนกันเพราะความโกรธที่มีต่อฟรีเซอร์นั้นเองจึงทำให้ได้กลายร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่าแล้วก็ชนะไปในที่สุดเลยถือว่าคนที่เป็นซูปเปอร์ไซ่ย่าในตำนาน นั้นก็คือพ่อของโกคูที่ย้อนอดีตไปนั้นเอง
ดราก้อนบอล (ญี่ปุ่น: ドラゴンボール Doragon Bōru, ทับศัพท์จากDragon Ball ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของโทริยาม่า อากิระ ลงพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2538 และรวมเป็นฉบับรวมเล่มได้ 42 เล่ม ในประเทศไทยเคยลงตีพิมพ์ใน ทาเล้นท์ และ ซีโร่ ในช่วงก่อนที่มีลิขสิทธิ์การ์ตูน และหลังจากนั้นได้ตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนบูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด
เนื้อเรื่องของดราก้อนบอลเกี่ยวกับการผจญภัยของ ซุน โกคู ในการรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูก เพื่อขอพรหนึ่งข้อจากเทพเจ้ามังกร โดยระหว่างการเดินทางโกคูต้องพบกับเพื่อนฝูงและอุปสรรคต่างๆ
ลักษณะการดำเนินเรื่องช่วงแรก น่าจะเอามาจากเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งกำหนดให้ซุนโกคู มีชื่อเดียวกับซุนหงอคง ให้มีปิศาจหมู อูลอน ลักษณะคล้าย ตือโป้ยก่าย
ดราก้อนบอลมีสร้างมาหลายภาคทั้งในฉบับมังงะและอะนิเมะ และยังมีการนำไปทำเป็นวิดีโอเกมหลายภาค และภาพยนตร์ ดราก้อนบอล นำแสดงโดย จัสติน แชตวิน, เอ็มมี รอสซัม และ โจว เหวินฟะ
และในปี พ.ศ. 2552 ดราก้อนบอล ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ขึ้นอีกครั้งในชื่อว่าดราก้อนบอล ไค โดยจะนำเนื้อหาของภาค ดราก้อนบอล Z มาสร้างใหม่ในระบบ High Definition Television (โทรทัศน์ความละเอียดสูง) เนื้อหาจะถูกตัดต่อใหม่ ให้กระชับฉับไวขึ้น เสียงประกอบ และ ดนตรี จะแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งหมดให้เหมาะกับยุคนี้ แต่ยังคงใช้นักพากย์เดิม และจะเริ่มออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 09.00 น. (ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น) ทางช่อง ฟูจิทีวี
- บูร่างอ้วน (Good Buu) ลักษณะนิสัยออกเด็กๆมีหน้าตาตลกๆและยิ้มแย้มมีบุคลิกท่าทางไม่ค่อยเต็ม เดิมทีเป็นบูร่างเล็ก แต่ได้ดูดกลืนไคโอชินตนหนึ่งที่มีรูปร่างใหญ่(มีระดับพลังต่อสู้เก่งที่สุดในเหล่าไคโอชินด้วย)เพื่อหวังจะให้พลังเพิ่มขึ้นบูจึงมีรูปร่างใหญ่ขึ้น ต่อมาดูดไคโอชินอีกตนที่มีรูปร่างอ้วนเพื่อหวังจะให้พลังเพิ่มขึ้นอีกทำให้กลายเป็นบูร่างอ้วน แต่กลืนจิตสำนึกของไคโอชินอ้วนตนนั้นเข้าไปด้วยจึงทำให้จอมมารบูมีร่างอ้วนและไม่ค่อยเต็ม ความสามารถพิเศษคือมีพลังต่อสู้มหาศาล,สามารถเสกอะไรก็ได้ให้เป็นของกิน,สามารถฟื้นฟูร่างกายได้คล้ายกับเป็นอมตะ และได้คืนชีพด้วยพลังบริสุทธิ์ของพวกโกคูและถูกบาบีดี้สั่งให้ฆ่ามนุษย์ แต่บูอ้วนมีนิสัยดีและยอมกลับตัวกลับใจด้วยมิตรภาพของมิสเตอร์ซาตาน และก็ได้เป็นเพื่อนกับมิสเตอร์ซาตานในที่สุด
หลังจากโลกสงบสุข จอมมารบูได้เข้าร่วมการแข่งศึกชิงจ้าวยุทธภพ โดยใช้ชื่อว่า มร.บู โดยส่วนมากจะแพ้ มร.ซาตานทุกครั้งในรอบชิงฯ
- บูร่างผอม (Evil Buu) เป็นบูในรูปแบบของปีศาจ เกิดจากการโมโหสุดขีดของบูร่างอ้วน มีนิสัยต่างจากบูร่างอ้วน บูร่างอ้วนและบูร่างผอมได้ต่อสู้กันแต่บูผอมชนะบูร่างอ้วนและได้เปลี่ยนบูร่างอ้วนให้เป็นช็อกโกแล็ตและกินเข้าไป
- ซูเปอร์ บู (Super Buu) เกิดจากบูร่างผอมได้กินบูร่างอ้วนที่เป็นช็อกโกแลตเข้าไป มีความสามารถคือ เมื่อดูดกลืนร่างของศัตรูทำให้ใช้วิชาผู้ที่ถูกกลืนร่างได้ โดยผู้ที่ถูกซูเปอร์ บูกลืนร่าง ได้แก่
- บูร่างเล็ก (Kid Buu) เป็นร่างแบบดั้งเดิมคือร่างที่แท้จริงของจอมมารบูหลังจากโกคูและเบจีต้าได้ทำลายความสามารถของร่างต่างๆ (โดยเฉพาะบูร่างอ้วน) แต่ทว่าบูร่างเล็กได้ทำลายโลกเลยทำให้ไม่สามารถช่วยพวกพิคโกโร่ได้ และมีความสามารถพิเศษคือมีพลังต่อสู้มหาศาลมาก,มีพลังทำลายมหาศาลมาก,สามารถฟื้นฟูร่างกายได้
ปีศาจชีวภาพที่ ดร.เกโร่ สร้างขึ้นมาเพื่อฆ่าโกคู โดย ดร.เกโร่นั้นนำข้อมูลจากตัวแมลงตัวเล็กๆที่ส่งไปติดตามข้อมูลของโกคู รวมถึงพวกพ้องแล้วมาบรรจุข้อมูลใส่คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างเซลขึ้นมา แต่เซลที่ถูกสร้างขึ้นมานี้ยังไม่มีร่างที่สมบูรณ์หากไม่ได้ดูดกลืนหมายเลข 17 และหมายเลข 18
เซลเกิดมาหลังจากยุคปัจจุบันไปอีก 4 ปี แต่ในยุคนั้นหมายเลข 17 และหมายเลข 18 ได้ถูกทรังคส์จัดการไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ได้ร่างที่สมบูรณ์ เซลจึงจัดการทรังคส์และขึ้นไทม์แมชชีนกลับมาสู่ยุคปัจจุบัน
เซลปรากฏตัวขึ้นในเมืองเล็ก ๆ และดูดกลืนชาวบ้านในเมืองนั้นและได้สู้กับพิคโกโร่ ซึ่งเซลร่างแรกนั้นไม่อาจสู้กับพิคโกโร่ที่หลังจากรวมร่างกับพระเจ้าก็มีพลังมหาศาลได้ จึงได้หลบหนีแล้วดูดกลืนชาวเมืองต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเอง ซึ่งเมื่อปรากฏตัวอีกครั้งพลังก็เหนือกว่าพิคโกโร่ไปมากแล้ว และในที่สุดก็ดูดกลืนหมายเลข 17 ได้สำเร็จ
เซลในร่างที่ 2 นั้นมีพลังมหาศาลขนาดที่ว่าหมายเลข16 ไม่อาจต้านทานได้เหมือนเซลร่างแรก แต่อย่างไรก็ตาม เซลในร่างที่ 2 นี้ก็ไม่อาจสู้กับเบจิต้าในร่างเหนือขีดของซุเปอร์ไซย่าได้ เซลจึงได้ท้าทายเบจิต้าว่าหากมีร่างที่สมบูรณ์เบจิต้าก็ไม่อาจจะต่อกรได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นจริงเมื่อเซลได้ดูดกลืนหมายเลข 18 เข้าไปจนมีร่างที่สมบูรณ์
วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ฟรีเซอร์อาจมีพลังเทียบได้กับเทพเจ้าองค์นึงเลยก็ได้
- ร่างที่ปรากฏตัวครั้งแรกมีพลังต่อสู้ทั้งหมด 530,000 หน่วย (มีพลังทำลายพลังต่อสู้และความเร็วรวมทั้งทักษะต่างๆสมดุลกันมีพลังพอพอกับเบจิต้าที่เพิ่มพลังมาจากครั้งก่อน)
- การแปลงร่างครั้งที่หนึ่งมีพลังต่อสู้ถึง 1,000,000 หน่วย (ในเรื่องดราก้อนบอลZมีบอกอยู่ใน ตอนที่78การแปลงร่างแห่งฝันร้ายฟรีสเซอร์ผู้มีพลังต่อสู้1ล้าน)
- การแปลงร่างครั้งที่สองมีพลังต่อสู้สูงสุดที่ 1,000,000 หน่วย (มีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก)
- การแปลงร่างครั้งสุดท้ายจะเริ่มใช้พลังจาก 1 เปอร์เซนต์ จะมีระดับพลังต่อสู้ 1,000,000 หน่วย (มีความเร็วลดลงจนสมดุลกับพลังทำลายแต่เริ่มนับเป็นพลังระดับหนึ่งเปอร์เซนต์)
- การแปลงร่างครั้งสุดท้ายเมื่อใช้พลัง 3 เปอร์เซนต์ มีระดับพลังต่อสู้ 3,000,000 หน่วย (พลังและความเร็วจะเพิ่มขึ้นตามเปอร์เซนต์และเป็นพลังที่เบจต้าไม่สามารถเอาชนะได้แม้จะเพิ่มพลังมาอีกครั้งหลังจากถูกชุปชีวิตจากการใกล้ตายแล้วก็ตาม)
- การแปลงร่างครั้งสุดท้ายเมื่อใช้พลัง 50 เปอร์เซนต์ มีระดับพลังต่อสู้ 50,000,000 หน่วย (เป็นพลังที่สามารถเอาชนะโกคูตอนที่ยังไม่ได้เป็นซุปเปอร์ไซย่าได้)
- การแปลงร่างครั้งสุดท้ายเมื่อใช้พลัง 100 เปอร์เซนต์ มีระดับพลังต่อสู้ 100,000,000 หน่วย(เป็นพลังสูงสุดแล้ว)
- ร่างไซเบาะซึ่งมีระดับพลังต่อสู้รวมทั้งหมด 98,000,000 หน่วย (เนื่องจากพ่ายแพ้จากการถูกโจมตีด้วยพลังทำลายจึงถูกฟื้นฟูใหม่ด้วยไซเบาะซึ่งเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์แล้วมีพลังน้อยกว่าเดิมแต่ก็มีพลังสูสีกับพลังเดิม)
อดีตกาลนานมาแล้วจอมราชาปิศาจพิคโกโร่ถือเป็นฝ่ายอธรรมวายร้ายที่ชาวโลกต่างหวาดกลัว ด้วยเป้าหมายที่อยากยึดครองโลกและเป็นราชาของโลก...ในสมัยนั้นมีจอมยุทธ์ไม่กี่คนที่สามารถต่อกรพิคโกโร่ได้ 1 ในนั้นก็คืออาจารย์สอนวิชาให้ผู้เฒ่าเต่าและเซียนกระเรียนนามว่าท่านมูไทโตะ ท่านได้คิดค้นวิชาที่กักขังจอมราชาปิศาจพิคโกโร่ได้นั่นคือคลื่นสะกดมาร โดยสะกดวิญญาณของพิคโกโร่ไปขังไว้ในหม้อหุงข้าวและแปะยันไว้ ทำพิคโกโร่ไม่สามารถออกจากหม้อหุงข้าวนั้นได้ แต่วันเวลาผ่านไปมีจอมวายร้ายตัวแสบนิสัยขี้ขลาดกลุ่มหนึ่งนั่นก็คือ ปิลาฟ ชู มัย ได้ปลุกความน่ากลัวของจอมมารขึ้นมาอีกครั้ง จากการปลุกราชาพิคโกโร่ขึ้นมา ทำให้ยอดฝีมือต่างๆที่เคยเข้าร่วมศึกชิงจ้าวยุทธภพโดนฆ่าตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจอมมารคิดว่าจะมีคนใดคนนึงสามารถใช่คลื่นสะกดมารได้แล้วกักขังตนอีกครั้งหนึ่งโดยรายแรกก็คือคูริริน ตอนนั้นโกคูพระเอกวัยเด็กของเราโกรธแค้นอย่างรุนแรง ได้เข้าต่อสู้กับจอมมารแต่สุดท้ายผลคือแพ้อย่างราบคาบ ทำให้โกคูตัดสินใจขึ้นไปฝึกวิชากับท่านคารินอีกครั้ง แต่ครั้งนี้โกคูได้ดื่มน้ำอมฤตยาพิษรุนแรงเข้าไปเพื่อดึงพลังแฝงในร่างกายออกมาทั้งหมด ในระหว่างนั้นผู้เฒ่าเต่าได้เข้าต่อกรกับจอมราชาพิคโกโร่โดยใช้วิชาเดียวกันกับท่านอาจารย์มูไทโตะแต่กลับผิดพลาด ทำให้ผู้เฒ่าเต่าจบชีวิตลง ร้ายยิ่งกว่านั้นจากการที่ปิลาฟรวบรวมดราก้อนบอลได้ครบ ทำให้หลังจากถูกขังในหม้อหุงข้าวเป็นเวลานาน ปิศาจพิคโกโร่ได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งหนึ่งทำให้พลังของมันเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล เด็กน้อยโกคูเมื่อได้ดึงพลังแฝงออกมาหมด ก็เข้าต่อสู้กับพิคโกโร่ที่ตอนนี้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง และก็สามารถเอาชนะได้ แต่ความน่ากลัวไม่หมดแค่นี้ ก่อนจอมมารจะตายได้ให้กำเนิดลูกของตัวเองออกมา วันเวลาผ่านไป จอมมารพิคโกโร่กลับมาปะทะกับโกคูอีกครั้งในศึกชิงจ้าวยุทธภพ ตอนนั้นความชั่วร้ายยังเต็มเปี่ยมในตัวพิคโกโร่ แต่แล้วศึกครั้งนั้นโกคูเป็นฝ่ายชนะ วันเวลาผ่านไปอีกครั้ง คราวนี้จุดเปลี่ยนอย่างเด่นชัดที่ทำให้พิคโกโร่เริ่มเอนเอียงกลายมาเป็นพวกเดียวกับพวกโกคูก็มาถึง ถ้าไม่มีชาวไซย่าบุกโลก โกคูกับพิคโกโร่อาจไม่มีโอกาสร่วมมือต่อสู้ด้วยกัน ถ้าตอนนั้นโกคูไม่ตาย พิคโกโร่อาจไม่มีโอกาสเป็นอาจารย์สอนวิชาให้ซุนโกฮังลูกชายของโกคู โกฮังน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จิตใจพิคโกโร่อ่อนโยนลง เรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ โกฮัง เป็นคนคนแรกที่พิคโกโร่รู้สึกรักและห่วงใย พิคโกโร่ถึงกับยอมสละชีวิตปกป้องโกฮังจนตัวเองต้องตายเลยทีเดียว หลังจากศึกชาวไซย่า พิคโกโร่ได้ร่วมต่อสู้ปกป้องโลกกับพวกโกคูอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ฟรีสเซอร์ มนุษย์ดัดแปลง เซล จอมมารบู ในด้านพลังความสามารถ พิคโกโร่นั้นก็เหมือนชาวไซย่าที่อยากเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ พิคโกโร่ได้รวมร่างกับชาวนาเม็กอยู่ 2 คน คือ เนล กับ พระเจ้าทำให้พลังของพิคโกโร่นั้นมีมากมายมหาศาลเช่นกัน ดูแล้วสามารถสู้กับเซลร่าง1ได้ง่ายดาย นั้นหมายถึงว่าพลังของเขามากกว่าซุปเปอร์ไซย่าร่าง 1 มากมายพอสมควร ดังนั้นพิคโกโร่นับเป็นกำลังสำคัญเวลาโลกตกอยู่ในความน่ากลัวของปิศาจวายร้ายเลยทีเดียว [1]
ชื่อ:
บลูม่า
บลูม่า
ญี่ปุ่น: ブルマ , Buruma / อังกฤษ: Bulma [[1]]
บลูม่า เป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัท แคปซูล คอร์เปอเรชั่น ซึ่งผลิตฮอยปอล์ย แคปซูล ทำให้เธอถนัดเรื่องวิทยาศาสตร์เครื่องจักรกลและร่ำรวยมหาศาลเลยทีเดียว ในครั้งแรกที่ได้พบกับ โกคู เธอตั้งใจจะรวบรวมดราก้อนบอล อัญเชิญเทพเจ้ามังกรออกมาเพื่อขอผู้ชายดีๆให้เธอสักคน เธอเป็นคนที่ทำให้โกคูได้รู้เรื่องของดราก้อนบอล และชักนำโกคูออกสู่โลกกว้าง ในช่วงแรกของเนื้อเรื่อง บูลม่าเคยคบเป็นแฟนกับหยำฉา แต่ช่วงท้ายของเรื่องก็มาอยู่กินกับเบจิต้าจนมีลูกสองคนชื่อ ทรังคซ์ กับ บรา
บลูม่า เป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัท แคปซูล คอร์เปอเรชั่น ซึ่งผลิตฮอยปอล์ย แคปซูล ทำให้เธอถนัดเรื่องวิทยาศาสตร์เครื่องจักรกลและร่ำรวยมหาศาลเลยทีเดียว ในครั้งแรกที่ได้พบกับ โกคู เธอตั้งใจจะรวบรวมดราก้อนบอล อัญเชิญเทพเจ้ามังกรออกมาเพื่อขอผู้ชายดีๆให้เธอสักคน เธอเป็นคนที่ทำให้โกคูได้รู้เรื่องของดราก้อนบอล และชักนำโกคูออกสู่โลกกว้าง ในช่วงแรกของเนื้อเรื่อง บูลม่าเคยคบเป็นแฟนกับหยำฉา แต่ช่วงท้ายของเรื่องก็มาอยู่กินกับเบจิต้าจนมีลูกสองคนชื่อ ทรังคซ์ กับ บรา
เบจิต้าเป็นเจ้าชายแห่งดาวเบจิต้า พ่อเป็นราชาแห่งดาวเบจีต้าจึงถูกเรียกว่าเจ้าชายเบจีต้า เบจีต้าได้รอดจากการระเบิดเพราะกำลังทำภารกิจและได้ทำงานอื่นรวมกับราดิซและนัปปะตามคำสั่งของฟรีเซอร์ที่กำลังลอกใช้ เป็นคู่กัดของ"โกคู ตอนหลังได้มารู้ว่าฟรีเซอร์เป็นคนทำลายดาวเบจิต้าเองและฆ่าชาวไซย่าทุกคนรวมถึงรู้ว่ากำลังถูกลอกใช้อยู่จึงทรยศฟรีเซอร์และเข้าเป็นพวกเดียวกันกับโกคู และร่วมกันต่อสู้ ภายหลังเบจิต้าได้อยู่กินกับบูลม่าซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทแคปซูล คอร์ป แต่ไม่ได้แต่งงานด้วยกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นลูกชายกับลูกสาว ชื่อ ทรังคซ์ กับ บูร่า เบจิต้ามักจะหยิ่งผยองตัวเอง และอยากเอาชนะโกคู และตอนที่สู้กับเซลนั้น เบจิต้าก็ถึงกับแพ้อย่างราบคาบ ไม่ชอบฟังคนอื่น แต่ถ้าได้เห็นจริง ก็จะรับฟังในภาค GT เบจีต้าอายุมากขึ้น จึงเริ่มไว้หนวด แต่สุดท้ายก็ต้องโกนออก เนื่องจาก บูร่า ผู้เป็นลูกสาวได้วิจารณ์ว่า "มันไม่เข้ากับใบหน้าป๊ะป๋าเลย"
ซุน โกเท็น เป็นลูกชายคนเล็กของ ซุน โกคู และ จีจี้ และเป็นน้องชายของ ซุน โกฮัง โกเท็นมีหน้าตาคล้ายโกคูตอนเด็ก พ่อของตัวเองมาก ตั้งแต่เล็ก โกเท็นยังไม่ได้พบหน้าพ่อของตัวเอง เหตุเพราะโกคูได้เสียชีวิตลงในการต่อสู้กับเซลล์ หลังจากการต่อสู้กับเซลล์ จีจี้ได้ให้กำเนิดโกเท็นขึ้นมา แต่เมื่ออายุ 7 ขวบ โกเท็นได้พบพ่อตัวเองในศึกชิงจ้าวยุทธภพ แต่ก็พบได้แค่วันเดียว ภายหลังโกคูได้ชีวิตจากอดีตมหาเทพ และกำจัดจอมมารบู จึงมาอยู่กับโกเท็น โกฮัง จีจี้ โกเท็นสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ตั้งแต่ 7 ขวบ แต่ยังไม่สามารถเหาะได้ ภายหลังโกฮังได้สอนวิธีเหาะให้โกเท็น สูง 136 ซม.หนัก 34 กก. ในภาค ดราก้อนบอล Z
เป็นลูกชายคนโตของซุน โกคู เป็นลูกชายสุดที่รักของจีจี้และมีน้องชายชื่อซุน โกเท็น เมื่อโกฮังโตขึ้นก็ได้แต่งงานกับบีเดล ลูกสาวของมิสเตอร์ซาตาน มีลูกสาวชื่อ ปัง เพราะสายเลือดของโกคูผู้เป็นพ่อ โกฮังจึงมีพลังที่แฝงอยู่ในตัวสูงกว่าโกคู แต่โดยเนื้อแท้แล้ว โกฮังไม่ได้ชอบในการต่อสู้เหมือนกับ โกคู ผู้เป็นพ่อเท่าไหร่นัก เขาอยากเป็นนักวิชาการมากกว่า โกฮังได้ร่วมออกเดินทางไปตามหาดราก้อนบอลที่ดาวนาเม็กกับคุริรินและบลูม่าเพื่อชุบชีวิตพวกพิคโกโร่หลังจากถูกพวกเบจิต้าฆ่าตาย ในตอนเซลเกมส์โกฮังในวัย 10 ขวบเป็นผู้ที่ปราบเซลได้ 7 ปีหลังจากที่ปราบเซลโกฮังได้เป็นผู้เพิทักษ์ความยุติธรรมหรือเรียกว่า "เกรทไซย่าแมน"
ซุน โกคู (孫悟空, そんごくう, ซง โงะคู) ตัวละครหลักจากการ์ตูนชุดเรื่องดราก้อนบอล และเป็นตัวละครการ์ตูนที่เป็นที่นิยมที่สุดคนหนึ่ง ทั้งนี้ ชื่อ ซุน โกคู มาจากชื่อ ตัวละคร ซุน หงอคง ในนิยายเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งสะกดว่า 孫悟空 (ซน โงะกู) ในภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน โกคู หรือ ซุน โกคู เป็นพระเอกของเรื่องเป็นชาวไซย่าที่เก่งที่สุด มีพ่อชื่อบาดั๊ก พี่ชายชื่อ ราดิซ โกคูเป็นชาวไซย่าที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า คาคาล็อตโกคูเมื่อตอนเริ่มเรื่องเล่มที่ 1 บอกกับบูลม่าว่ามีอายุ 14 ปี แต่ในเล่ม 3 บอกว่าอายุ 12 ปี เนื่องจากนับเลขผิด โกคูได้ช่วยปกป้องโลกเอาไว้หลายครั้งแล้วจากการทำลายโลกของฝ่ายร้าย เช่น จอมมารพิคโกโร่ ฟรีเซอร์ เซล จอมมารบู โกคูชอบกินข้าวมากๆ และชอบชวนคนอื่นอาบน้ำ และจะหิวบ่อยเป็นคนที่อารมณ์ดีไม่ชอบทะเลาะ ซึ่งต่างกับเบจิต้าอย่างมาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)